PM 2.5 คืออะไร

Rate this item
(0 votes)
PM 2.5 คืออะไร

ทุกวันนี้เราคงเลี่ยงปัญหาของฝุ่นละอองในอากาศไม่ได้แล้วนะครับ โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ไม่เฉพาะแต่ในกรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัดก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา เป็นต้น

 

คำถาม คือ PM 2.5 คืออะไร แล้วมีผลกระทบกับชีวิตเราอย่างไร เกิดจากอะไร นอกจากนี้เราจะป้องกันได้อย่างไร และจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร

คำถามแรก PM 2.5 คืออะไร

PM ย่อมาจาก Particulate Matter (หรือบางทีจะถูกเรียกว่า particle pollution) คือ อนุภาคฝุ่นละอองที่เป็นมลพิษนั่นเอง ส่วน 2.5 จะหมายถึง 2.5 ไมครอน(ไมโครเมตร) เป็นหน่วยวัดมาตรฐานซึ่งถือว่าเล็กมาก ยกตัวอย่าง ถ้าเทียบกับเส้นผมของมนุษย์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 50-70 ไมครอน ฝุ่นละอองนี้ก็จะมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของเราถึงประมาณ 30 เท่า

สรุปแล้ว PM 2.5 จะหมายถึงฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนลงไป ดังนั้นเราจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่มันมีอยู่จริงแน่นอน เหมือนกับอะไรบางอย่างนะครับ อันนี้ให้คิดเอาเอง

โดยค่านี้จะแสดงถึงจำนวนของ PM 2.5 ต่อ 1 m3 หรือ ลูกบาศ์กเมตรนั่นเอง

แล้วคำถามต่อมา มันมีผลกระทบกับชีวิตเราอย่างไร

ในเมืองใหญ่ๆ เราก็ไปทำงานกันปกติ แค่วันนี้ท้องฟ้าดูไม่สดใสเหมือนเคย เห็นเป็นหมอกจางๆหรือควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้ แต่คงไม่ต้องถามใครแล้ว เพราะว่าเป็นฝุ่น PM 2.5 แน่นอน องค์กรต่างๆก็ออกมาประกาศเตือนกันให้ประชาชนทราบและตระหนักถึงภัยที่ตามมา ถ้าเราสูดเข้าไปมันก็จะสามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอด อีกทั้งยังเข้าสู่กระแสเลือดได้ ทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดต่างๆ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ทําให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด และอาจะเป็นมะเร็งปอดได้ แม้กระทั่งทารกในครรภ์ที่แม่สัมผัสกับอนุภาค PM2.5 ก็จะทำให้เด็กเมื่อโตขึ้นมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ดังกล่าว

ฟังแล้วผลกระทบอาจจะดูน่ากลัว แต่เนื่องจากว่ามันเป็นผลกระทบในระยะยาว จึงทำให้คนไทยไม่ตระหนักเท่าที่ควรและรู้สึกว่าไม่ใส่หน้ากากไม่ป้องกันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่นา ในระยะสั้นสำหรับคนที่ไม่ sensitive ก็อาจจะไม่เห็นผลอะไร แต่ระยะยาวคนที่ไม่ป้องกันอาจจะต้องมาเสียใจภายหลังแน่นอน ที่พูดมาก็เพื่อต้องการให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตัวเองก่อนที่จะสายไปครับ 

ทีนี้จะรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้ที่ๆเราอยู่มีค่า PM 2.5 เท่าไหร่ อันนี้ก็ไม่ยากเนื่องจากมีแอปพลิเคชันบนมือถือ หรือเวบไซต์ต่างๆที่เก็บรวบรวมข้อมูลและแสดงผลให้เราทราบ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ www.pcd.go.th ก็จะมีแสดงเป็นแผนที่ตาม Link นี้ครับ

PM25Color

ข้างบนเป็นมาตรฐานของประเทศไทย แต่จริงๆแล้วค่ามาตรฐานของ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดเป็นข้อแนะนำไว้ว่า ค่า PM 2.5 ปกติไม่ควรเกิน 10 μg/m3 เฉลี่ยต่อปี หรือ 25 μg/m3 เฉลี่ยต่อชั่วโมง แต่ก็มีการปรับเกณฑ์ตามลักษณะของประเทศนั้นๆ เช่น ประเทศที่กำลังพัฒนาก็อาจจะเป็นที่ 35 ไมโครแกรมต่อลูกบาศ์กเมตร ก็จะเห็นได้ว่าค่ามาตรฐานเรากับของโลกต่างกันอย่างไรแล้วนะครับ

จากการวิจัยก็พบอีกว่าเมื่อค่าเหล่านี้สูงขึ้นนั่นหมายความว่าประชากรก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมากขึ้นนั้นเอง ผลกระทบเหล่านี้ไม่เห็นในวันนี้พรุ่งนี้แต่จะเห็นในระยะยาวแน่นอนครับ

ต่อมา แล้วไอ้เจ้า PM 2.5 เนี่ยมาจากไหน มันก็มาได้จากหลายสาเหตุ เช่น

-โรงงานอุตสาหกรรม
- การก่อสร้าง
- การคมนาคมขนส่ง
- การที่เราเผาขยะ เผาเศษไม้ เผาป่า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ตามต่างจังหวัดบางจังหวัดไม่ได้มีโรงงานอุตสาหกรรมก็ยังมีค่า PM 2.5 ในอัตราที่สูงกว่ามาตรฐาน

ถ้าถามถึงการป้องกัน ตอนนี้ถ้าหลีกเลี่ยงจากพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ก็คงต้องใช้ หน้ากากอนามัยที่ได้รับมาตรฐาน ปัจจุบันที่นิยมมากที่สุด ก็คือ แบบ N95 ที่สามารถป้องกันฝุ่นที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน แต่ก็ราคายังค่อนข้างแพงและก็ขาดตลาดในบางช่วง และก็กันได้ไม่ต่ำกว่า 95%

ปัจจุบันนอกจากหน้ากากอนามัย ในบางพื้นที่อาจจะมีฝุ่นควันมากกว่าปกติ เช่น ที่เชียงใหม่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ถึงแม้ว่าเราอยู่ในบ้านก็หนีไม่พ้นนะครับ ดังนั้น อาจจะต้องพึ่งพาเครื่องฟอกอากาศเพิ่มเติม อย่างนั้นเวลาเราอยู่ในบ้านก็ยังช่วยให้เรามีอากาศที่บริสุทธิ์หายใจครับ สำหรับเครื่องฟอกที่เคยใช้แล้วคิดว่าราคาเหมาะสมตอนนี้ก็มี ของ Xiaomi Air Purifer 2s ครับ ราคาในเวบจะอยู่ที่ประมาณ 3,xxx ถึง 5,xxx ขึ้นอยู่กับการรับประกันครับ  ที่ชอบรุ่นนี้ก็เพราะว่ามีหน้าจอบอกค่า PM2.5 ด้วยนะครับ จะทำให้เราเห็นว่าตอนนี้ค่า PM2.5 เป็นเท่าไหร่แล้วหลังจากที่เปิดไปซักพักค่าก็จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆครับ นอกจากนี้เรื่อง Filter ก็หาซื้อได้ง่ายราคาที่ศูนย์ก็เพียงแค่ 999 บาทครับ

Xiaomi Air Purifier 2s - JD Central

สำหรับวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ถ้าเราสามารถที่จะช่วยลดสาเหตุตรงไหนได้เราก็ควรที่จะช่วยกันนะครับ ใครที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับส่วนไหนที่ทำให้เกิดมลพิษก็ควรที่จะตระหนักและช่วยกันทุกคนครับ เพราะการป้องกันนั้นค่อนข้างยาก อากาศเราหายใจเข้าไปอยู่ตลอดเวลาจะให้ใส่หน้ากากตลอดคงเป็นไปไม่ได้ แล้วหน้ากากก็ไม่ได้กันได้ 100% นะครับ

 

อ้างอิง :

https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/ambient-(outdoor)-air-quality-and-health
http://air4thai.pcd.go.th/webV2/region.php?region=0